Maker Design | (Curtain wall)

4008 จำนวนผู้เข้าชม  | 

Maker Design | (Curtain wall)

Maker Design มีคำถาม

เคยสงสัยกันมั้ยครับว่า กระจกบนตัวอาคาร หรือตึกสูงๆ นั้นทำมาจากอะไรเป็นกระจกแบบเดียวกับตามบ้านทั่วไปรึเปล่า ทำไมถึงมีความทนทานต่อกระแสลมที่ความสูงระดับนั้นได้ วันนี้แอดจึงนำความรู้มาแชร์ให้ทุกคนทราบกันครับ

Curtain wall System เปรียบเหมือนระบบกําแพงม่านกระจกขนาดใหญ่ที่คอยห่อหุ้มป้องกันตัวอาคาร ซึ่งนอกจากประโยชน์ในด้านนี้แล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงรสนิยมและสไตล์ในยุคนั้น ระบบผนัง (Curtain wall) ได้รับความนิยมในงานสถาปัตยกรรมอย่างแพร่หลาย โดยออกแบบมาเพื่อป้องกันการซึมผ่านของอากาศ และน้ำ ดูดซับแรงกระแทกจากแรงดันลมบนที่สูง และแรงกระทําจากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นกับตัวอาคาร ทนต่อแรงลมความเร็วสูงในภูมิประเทศที่มีสภาพอากาศที่หลากหลาย และยังได้รับความสวยงาม ทันสมัย

Curtain wall ยังเป็นระบบผนังที่รองรับกําลังน้ําหนักบรรทุกที่ตายตัวของตัวเอง โดยยึด หรือ แขวนผืนผนังกระจกเข้ากับโครงสร้างของอาคารบริเวณหน้าคาน สันของแผ่นพื้น หรือสันของแผ่นพื้นไร้คาน จะติดตั้งแผ่นกระจกเข้ากับโครงเหล็ก หรือ อะลูมิเนียม ซึ่งมีทั้งรูปแบบที่เห็นโครงในแนวตั้ง-นอนทั้งภายใน และภายนอกอาคาร รวมถึงรูปแบบที่นิยมมาก คือ การซ่อนโครงไว้ภายในอาคาร ส่วนภายนอกจะเห็นเป็นกระจกประกอบชนกันอย่างเรียบเนียนไม่สะดุด ทําให้ตัวอาคารเปรียบเสมือนแท่งแก้วขนาดใหญ่ ที่สะท้อนรสนิยมความทันสมัย ดังเช่นตึกกระจกระฟ้ายุคใหม่ที่มีให้เราเห็นจนคุ้นตาในปัจจุบัน

 


รูปแบบของระบบผนัง Curtain Wall 

แบ่งได้ออกเป็น 3 รูปแบบ

1. แบบธรรมดา (Conventional System)

เส้นกรอบอะลูมิเนียมได้ 4 ด้าน ทั้งแนวราบ และแนวนอน เป็นรูปแบบดั้งเดิมในยุคแรกเริ่มของระบบผนัง Curtain Wall






2. แบบ 2-SIDED

เส้นกรอบอะลูมิเนียมได้เพียง 2 ด้าน ในระนาบใดระนาบหนึ่งเท่านั้น ทําให้ผืนกระจกมีความต่อเนื่องกันมากขึ้น ปราศจากรอยต่อของเส้นกรอบอะลูมิเนียมในแนวตั้ง

3. แบบ 4-SIDED 

ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน รูปลักษณ์ทันสมัย ปราศจากการรบกวนสายตาของเส้นกรอบ ลดทอนขนาดและรายละเอียดลงไปมากทําให้ผืนกระจกมีความต่อเนื่องกันมากขึ้นเสมือนเป็นม่านกระจกขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีความเหมาะสมกับอาคารที่มีผนังกระจกสูงต่อเนื่องหลายชั้น ดยมีการติดตั้งระบบผนังโครงเบา และฉนวนกันความร้อนไว้ด้านหลัง ในกรณีที่พื้นที่ส่วนดังกล่าวถูกออกแบบเป็นห้องที่มีผนังทึบ เช่น ห้องน้ํา ปล่องลิฟต์ หรือ ห้องงานระบบต่างๆ


ประเภทกกระจกที่ใช้ในงาน Curtain system

กระจกที่เลือกใช้ควรคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดในกรณีที่มีการแตกหักเสียหาย เนื่องจากพื้นที่ในการนำไปใช้งานเป็นพื้นที่ ที่มีความสูง ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงกว่าพื้นที่ทั่วไป ฉะนั้นกระจกที่นำมาใช้จึงจำเป็นต้องมีความทนทาน และมีคุณสมบัติที่พิเศษกว่ากระจกทั่วไป โดยสามารถแบ่งประเภทกระจกหลัก ที่ใช้ในระบบผนังCurtain Wall ออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้




1. กระจกลามิเนต (Laminated Glass) 

กระจกลามิเนต ถือเป็นกระจกนิรภัยชนิดหนึ่ง ที่เวลาแตกแล้วเศษกระจกจะยังคงยึดติดกันกับแผ่นกระจกโดยไม่ร่วงหล่น เพราะมีชั้นฟิล์มที่ยึดเกาะระหว่างแผ่นกระจกเหมือนกับใยแมงมุม โดยเป็นการนำเอากระจกนิรภัยเทมเปอร์ (Tempered Safe Glass) หรือกระจกธรรมดา (Annealed Glass / Floated Glass) จำนวน 2 แผ่น หรือมากกว่า แล้วนำมาประกบติดกันโดยมีชั้นฟิล์มคั่นกลางระหว่างกระจก เราจึงเรียกกระจกที่ผ่านกระบวนการผลิตในลักษณะนี้ว่า กระจกลามิเนต (Laminated Glass) นั่นเอง


คุณสมบัติเด่นของกระจกลามิเนต

  |   
เมื่อกระจกได้รับความเสียหายจนเกิดการแตก เศษกระจกจะไม่ร่วงหล่นลงมา ซึ่งช่วยลดอันตรายได้มากขึ้น 

  |   ช่วยป้องกันเสียงรบกวนภายนอก และเก็บเสียงได้ดีกว่ากระจกธรรมดา

  |   ช่วยป้องกันความร้อนได้ดี และกันรังสียูวีได้มากกว่า 90 %

  |   ทนต่อแรงดันลมในที่สูง ทนต่อแรงอัดกระแทก และช่วยป้องการบุกรุกจากการโจรกรรมได้

  |   สามารถเคลือบสีได้ตามความต้องการ


2. กระจกฮีทสเตรงค์เท่น ( Heatstrengthened Glass ) 

กระจกฮีทสเตรงค์เท่น เป็นกระจกที่ผลิตด้วยกระบวนการเดียวกับกระจกนิรภัยเทมเปอร์ คือ การนำเอากระจกโฟลต (Annealed Glass)
มาอบเพื่อให้ได้คุณสมบัติความแข็งแรงเพิ่มมากขึ้น โดยใช้ความร้อนในการอบที่ 650-700 องศาเซลเซียส แต่กระบวนการทำให้กระจกเย็นลง จะทำแบบช้า ๆ ด้วยการเป่าลมที่ผิวกระจกทั้ง 2 ด้าน จะมีผลทำให้กระจกเย็นตัวช้าลง ความเครียดที่ผิวกระจกก็จะลดหลั่นลงมาตามลำดับ ซึ่งเมื่อค่าความเครียดที่ผิวกระจกอยู่ระหว่าง 3,500-7,500 PSI เราจะเรียกกระจกชนิดนี้ว่า “กระจกฮีทสเตรงค์เท่น” (Heat-Strengthened Glass) โดยสมบูรณ์ จึงทำให้เนื้อกระจกมีคุณสมบัติพิเศษที่แข็งแรงกว่ากระจกธรรมดาถึง 2 เท่า

  |    มีความแข็งแรงกว่ากระจกโฟลท 2 เท่า ทำให้สามารถร้บแรงกระแทก แรงกด แรงบีบ ได้ดี

  |    ทนต่อแรงดันของกระแสลมในที่สูงได้ดี ถ้าใช้เป็นผนังอาคารสูง พื้นกระจก หรือหลังคากระจก ต้องประกบลามิเนต เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และความปลอดภัยขึ้นไปอีก ไม่ควรใช้กระจกฮีทสเตร็งเท่นแผ่นเดียวโดด ๆ

  |    ทนความร้อนแบบปกติได้สูงถึง 290 ºC โดยที่เนื้อกระจกไม่ปริแตก

  |    ทนต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างฉับพลันได้ตั้งแต่ 70-100 ºC

  |    เมื่อกระจกปริแตก รอยร้าวจะวิ่งเข้าหาขอบเฟรมกระจก ซึ่งรอยร้าวดังกล่าวจะมีจำนวนไม่มาก จึงทำให้กระจกยังเป็นชิ้นใหญ่ ๆ ซึ่งมีขนาดใหญ่มากกว่าการแตกร้าวของกระจกทั่วไป

  |    ไม่ปริแตกแตกด้วยตัวเอง แบบเดียวกับการปริแตกด้วยตัวเองของกระจกนิรภัยเทมเปอร์


#Mdecorate By Maker Design
#Manphailin Design #ม่านไพลิน
#MacohouseM #MACO HOUSE ประตู,หน้าต่างอลูมิเนียม Premium Euro Profile By Manphailin

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้